หน่วยที่ 7

หน่วยที่ 7 อินเทอร์เน็ต


ความหมายของอินเทอร์เน็ต
            อินเทอร์เน็ต เป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก อินเทอร์เน็ตเป็นทั้งเครือข่ายของคอมพิวเตอร์และเครือข่ายของเครือข่าย เพราะอินเทอร์เน็ตประกอบด้วยเครือข่ายย่อยเป็นจำนวนมากต่อเชื่อมเข้าด้วยกันภายใต้มาตรฐานเดียวกันจนเป็นสังคมเครือข่ายขนาดใหญ่ ซึ่งเครือข่ายคอมพิวเตอร์หมายถึงกลุ่มของเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เชื่อมต่อสื่อสารด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ เครือข่ายคอมพิวเตอร์ตั้งแต่สองเครือข่ายขึ้นไปเชื่อมต่อกัน อินเทอร์เน็ตมาจากความต้องการของงานวิจัยในกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ฯ แต่ได้เติมโตเป็นเครือข่ายขนาดใหญ่ครอบคลุมทั่วโลก ให้บริการแก่ทุกองค์กร (ยืน ภู่วรวรรณ 2550 : 213)

อินเทอร์เน็ตเป็นเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่ครอบคลุมไปทั่วโลก และเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลข่าวสารจำนวนมาก ทำให้สามารถค้นคว้าหาข้อมูลจากที่ต่าง ๆ  เพื่อนำมาใช้ประโยชน์ จึงจะขอยกตัวอย่างการใช้งานอินเทอร์เน็ตในด้านต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1.การค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ผู้ใช้สามารถค้นหาสิ่งที่สนใจได้เวิลด์ไวด์เว็บซึ่งเป็นบริการข้อมูลแบบมัลติมีเดียที่เก็บรวบรวมข้อมูลข่าวสารที่มีอยู่มหาศาลในบริการ
2.บนอินเทอร์เน็ตให้เป็นกลุ่มเป็นก้อนและเชื่อมโยงถึงกันได้ในเวิลด์ไวด์เว็บแต่ละแห่งจะจัดทำข้อมูลทั้งข้อความปกติ หรือแบบมัลติมีเดียที่ประกอบด้วยเสียง ภาพนิ่ง และภาพเคลื่อนไหว และใช้เทคโนโลยีไฮเปอร์เท็กซ์ และไฮเปอร์มีเดีย (Hypermedia) ในการเชื่อมโยงเอกสารชุดหนึ่งไปสู่เอกสารอีกชุดหนึ่ง ดังนั้น เมื่อเข้าไปใช้บริการเวิลด์ไวด์เว็บในที่แห่งหนึ่งก็สามารถเชื่อมไปยังเวิลด์ไวด์เว็บแห่งอื่นได้
 3.การโฆษณาประชาสัมพันธ์องค์การและหน่วยงานต่าง ๆ มักจะมีเว็บไซต์ (Web Site) บนอินเทอร์เน็ตเพื่อทำการให้บริการข้อมูลและประชาสัมพันธ์องค์การและหน่วยงานให้แก่บุคคลภายนอกได้ทราบ เพื่อสร้างภาพพจน์ที่ดีให้แก่องค์การ ดังนั้นผู้ใช้จึงสามารถเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์เหล่านี้เพื่อค้นคว้าหาข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสินค้า และบริการที่ผู้ใช้ต้องการจะซื้อ ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสถาบันการศึกษาหน่วยงานภาครัฐ เพื่อนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้งานได้
 4.  การอ่านข่าว (Read the News) ผู้ใช้สามารถอ่านข่าวต่าง ๆ จากทุกมุมโลกได้จากเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ให้บริการข่าวบนอินเทอร์เน็ตตลอดจนข่าวจากหนังสือพิมพ์ต่าง ๆ ในประเทศไทยได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว
 5.      การอ่านหนังสือวารสารและนิตยสาร (Read the Magazines) ในปัจจุบันมีบริษัทที่ผลิตสื่อสิ่งพิมพ์จำนวนมากจัดทำนิตยสารออนไลน์ไว้ให้บริการแก่ผู้ใช้บริการบนอินเทอร์เน็ตเช่น Time และ Max PC เป็นต้น
 6. การส่งการ์ดอวยพรและข้อความให้ผู้ใช้โทรศัพท์มือถือและเพจเจอร์ ในปัจจุบันผู้ใช้สามารถส่งการ์ดอวยพรเนื่องในโอกาสต่าง ๆ ให้กับผู้คนที่ผู้ใช้รู้จักได้ทั่วโลกด้วยการส่งการ์ดอวยพรอิเล็กทรอนิกส์ผ่านระบบบริการบนอินเทอร์เน็ตซึ่งไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น และยังสะดวกรวดเร็วอีกด้วย บริษัทผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือและเพจเจอร์ต่าง ๆ ก็หันมาใช้ประโยชน์จากเครือข่ายบริการบนอินเทอร์เน็ตมากขึ้น โดยจะเห็นได้จากในปัจจุบันมีเว็บไซต์ที่ให้บริการฝากข้อความไปยังเพจเจอร์และโทรศัพท์มือถือเกิดขึ้นมากมาย
 7. การค้นหาข้อมูลจากห้องสมุด (Explore Libraries) บนอินเทอร์เน็ตมีห้องสมุดออนไลน์ต่าง ๆ เป็นจำนวนมากให้ผู้ใช้ได้ค้นหาข้อมูลได้อย่างสะดวกรวดเร็วและประหยัดค่าใช้จ่าย โดยผู้ใช้ไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังห้องสมุดนั้น ๆ เพื่อใช้บริการด้วยตนเอง ซึ่งบางห้องสมุดในประเทศสหรัฐอเมริกาอนุญาตให้ผู้ใช้ทำการยืมหนังสือจากห้องสมุดออนไลน์ได้ โดยผู้ใช้จะต้องทำการเลือกหนังสือที่ต้องการจากรายการหนังสือของห้องสมุดหลังจากนั้นห้องสมุดจะทำการจัดส่งหนังสือที่ต้องการมาให้ภายในเวลาไม่กี่วัน โดยจัดส่งผ่านทางไปรษณีย์
 8. การดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ (Software Download) บริษัทผู้ผลิตซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ที่ได้รับความนิยม เช่น Microsoft, Mcafee, Sysnemtec เป็นต้น จะมีเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลและบริการเกี่ยวกับโปรแกรมต่างๆ ของบริษัทซึ่งโปรแกรมเหล่านั้นอาจจะให้ฟรี หรือให้ทดลองใช้โดยมีการกำหนดเวลาการใช้งาน ดังนั้นผู้ใช้สามารถดาวน์โหลดซอฟต์แวร์เหล่านั้นมายังเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ เพื่อทำการศึกษาหรือใช้งานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
 9.      การซื้อสินค้าและบริการ (Shopping) บนอินเทอร์เน็ตมีบริการซื้อขายสินค้า โดยผู้ใช้สามารถเลือกดูสินค้าพร้อมทั้งคุณสมบัติต่าง ๆ ของสินค้าผ่านทางจอคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ แล้วสั่งซื้อและจ่ายเงินด้วยบัตรเครดิตได้ทันที สินค้าที่มีจำหน่ายบนอินเทอร์เน็ตก็มีครบทุกประเภทเหมือนกับห้างสรรพสินค้าใหญ่ ๆ นับว่าเป็นการใช้งานอินเทอร์เน็ตเชิงพาณิชย์อย่างจริงจัง
 10. การดูโทรทัศน์และฟังเพลง (Watch TV And Listen Music) ผู้ใช้สามารถดูโทรทัศน์ ฟังวิทยุ หรือดูรายการถ่ายทอดสดของสถานีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นของไทยหรือต่างประเทศก็ได้ โดยคุณภาพของเสียงอาจจะไม่เทียบเท่ากับการดูจากโทรทัศน์หรือฟังเพลงจากระบบปกติ แต่ก็มีคุณภาพอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ ซึ่งทำให้ผู้ที่ต้องการใช้บริการได้รับความสะดวก สามารถใช้บริการได้ทุกที่ ทุกเวลา ที่สามารถเข้าถึงบริการบนอินเทอร์เน็ตได้
 11. การแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร (Exchange Massage) ผู้ใช้สามารถรับ ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีเมล์ กับผู้ใช้บริการบนอินเทอร์เน็ตคนอื่น ๆ ทั่วโลกได้ในเวลาอันรวดเร็ว โดยมีค่าใช้จ่ายต่ำมากเมื่อเปรียบเทียบกับการส่งจดหมายแบบปกติ หรือส่งข้อมูลด้วยวิธีอื่น ๆ นอกจากนั้นยังอาจส่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น แฟ้มข้อมูล รูปภาพ ไปจนถึงข้อมูลและมัลติมีเดียที่เป็นภาพและเสียงได้ด้วย
 12.  การเล่มเกม (Play Games) บนอินเทอร์เน็ตมีเว็บไซต์จำนวนมากที่ให้บริการเกมออนไลน์ เพื่อความบันเทิงและฝึกทักษะทางสมอง ซึ่งเกมออนไลน์มีอยู่หลายประเภทด้วยกัน เช่น เกมเพื่อการศึกษา เกมแนวไขปริศนา (Puzzle) เกมวางแผนทางยุทธศาสตร์ ฯลฯ ซึ่งเกมเหล่านี้จะมีส่วนช่วยกระตุ้นการพัฒนาสมองของเด็กให้เร็วขึ้น และช่วยเสริมสร้างทักษะความคิดในเรื่องของการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า
 13.การสนทนาออนไลน์ (Chat) ในกรณีที่ผู้ใช้ต้องการติดต่อสื่อสารแบบทันทีทันใด อินเทอร์เน็ตสามารถช่วยให้ผู้ใช้สามารถพูดคุยกับผู้ใช้บริการคนอื่น ๆ บนอินเทอร์เน็ตจากที่ต่าง ๆ ในโลกได้ด้วยการพิมพ์ข้อความส่งถึงกันโดยข้อความที่พิมพ์ผ่านแป้นพิมพ์จะไปปรากฏบนหน้าจอของคู่สนทนาทันที หรือจะเลือกวิธีการพูดคุยด้วยเสียงพร้อมกับภาพก็สามารถทำได้
 14.   การเรียนทางไกล (Distance learning) ในปัจจุบันมีมหาวิทยาลัยต่าง ๆ ในต่างประเทศที่มีหลักสูตรการเรียนแบบทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทั้งในระดับประกาศนียบัตร ปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกโดยผู้เรียนไม่จำเป็นต้องนั่งเรียนในชั้นเรียน เพียงแต่ลงทะเบียนเรียนกับมหาวิทยาลัยที่เปิดสอนในระบบทางไกลผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทางมหาวิทยาลัยก็จะจัดส่งตารางเรียน ตลอดจนเอกสารต่าง ๆ มาให้ โดยผู้เรียนจะต้องออนไลน์เข้าสู่บริการบนอินเทอร์เน็ตเพื่อเข้าเรียนตามวันและเวลาที่มหาวิทยาลัยกำหนด นอกจากนี้ยังมีเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ให้บริการเกี่ยวกับการเรียนการสอนในลักษณะของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนในเรื่องต่าง ๆ เป็นจำนวนมาก โดยผู้เรียนไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เช่น การสอนภาษาอังกฤษ คณิตศาสตร์ คอมพิวเตอร์ เป็นต้น
 15.  การหางานทำบนบนอินเทอร์เน็ต ในปัจจุบันมีเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ให้บริการจัดหางานผ่านทางบริการบนอินเทอร์เน็ตจำนวนมาก โดยผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับการประกาศรับสมัครงานของบริษัทต่าง ๆ และสามารถทำการสมัครงานโดยตรงบนเว็บไซต์ดังกล่าวได้ การใช้บริการบนอินเทอร์เน็ตในการรับพนักงานของบริษัทต่าง ๆ จึงช่วยผู้ว่าจ้างและผู้ต้องการหางานทำได้รับความสะดวก และได้ตำแหน่งงานตามที่ต้องการ
 16.    การวางแผนการเดินทาง การสำรองที่พัก และการซื้อตั๋วโดยสารเมื่อผู้ใช้ต้องการเดินทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ก็สามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางตารางเวลาเดินทางของรถยนต์ รถไฟ และเครื่องบินได้โดยผ่านเว็บไซต์ที่ให้บริการข้อมูลต่าง ๆ บนอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้ยังสามารถสำรองห้องพักของโรงแรมต่าง ๆ ตลอดจนสามารถสำรองที่นั่งและซื้อตั๋วเครื่องบินจากสายการบินต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
17.     การค้นหาที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ บนอินเทอร์เน็ตมีเว็บไซต์จำนวนมากที่ให้บริการค้นหาที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ของบุคคล องค์การ บริษัทต่าง ๆ เพียงแค่ป้อนข้อมูลของบุคคลที่ผู้ใช้ต้องการค้นหา เช่น ชื่อและนามสกุล ชื่อเมือง ชื่อรัฐ และประเทศ ลงในช่องกรอกข้อมูลก็สามารถทราบที่อยู่โดยละเอียด แผนที่บ้าน ที่ทำงาน เบอร์โทรศัพท์ และ อีเมล์แอดเดรส ของบุคคลหรือองค์การที่ต้องการค้นหาได้อย่างรวดเร็ว
 18.      การรายงานและพยากรณ์สภาพภูมิอากาศ มีเว็บไซต์ต่าง ๆ ให้บริการสอบถามและพยากรณ์สภาพภูมิอากาศโดยมีความสามารถในการรายงานสภาพภูมิอากาศทุกประเทศทั่วโลก
 19.     การแสดงแผนที่และเส้นทางการขับขี่รถยนต์ ผู้ใช้สามารถค้นหาและสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับถนน แผนที่ จำนวนไมล์หรือกิโลเมตร จากจุดเริ่มต้นไปยังจุดหมายปลายทางได้จากเว็บไซต์จำนวนมากที่ให้บริการบนอินเทอร์เน็ต
 20. การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์และการซื้อขายหุ้นสำหรับนักลงทุน หรือผู้ที่ชอบซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์สามารถหาข้อมูลความเคลื่อนไหวของดรรชนีตลาดหลักทรัพย์หรือความเคลื่อนไหวของบริษัทต่าง ๆ ในตลาดหลักทรัพย์ได้จากเว็บไซต์ที่ให้บริการข้อมูลด้านการซื้อขายหุ้น ซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีอยู่มากมายบนอินเทอร์เน็ตเพื่อเป็นข้อมูลในการพิจารณา รวมทั้งสามารถทำการซื้อขายผ่านบริการบนอินเทอร์เน็ตได้ด้วย
 บริการบนอินเทอร์เน็ตและระบบโทรศัพท์มีลักษณะการทำงานคล้ายคลึงกัน ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับบริการบนอินเทอร์เน็ตได้ คล้ายกับการเชื่อมต่อเครื่องโทรศัพท์ที่บ้านเข้ากับระบบโทรศัพท์ เมื่อทำการเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์กับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ก็เหมือนกับว่าคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่และเป็นส่วนหนึ่งของคอมพิวเตอร์ทั่วโลก ดังนั้นเครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้ก็จะสามารถเข้าถึงทรัพยากรต่าง ๆ บนบริการบนอินเทอร์เน็ตได้
            1. ผู้ให้บริการ วิธีการพื้นฐานที่ทำให้เข้าถึงบริการบนอินเทอร์เน็ตได้คือ การเชื่อมต่อเครื่องคอมพิวเตอร์เข้ากับระบบของผู้ให้บริการบริการบนอินเทอร์เน็ต (Internet Service Provider) หรือ ไอเอสพี (ISP) ผู้ให้บริการบริการบนอินเทอร์เน็ตเหล่านี้เชื่อมต่ออยู่กับระบบบริการบนอินเทอร์เน็ตและเปิดเส้นทางเชื่อมต่อให้กับบุคคลอื่นสามารถเข้าถึงบริการบนอินเทอร์เน็ตได้ สำหรับระบบบริการบนอินเทอร์เน็ตภายในวิทยาลัยหรือมหาวิทยาลัยมักจะอนุญาตให้เชื่อมต่อบริการบนอินเทอร์เน็ตได้ โดยผ่านระบบเครือข่ายเฉพาะที่ หรือเชื่อมต่อผ่านระบบการหมุนโทรศัพท์ นอกจากนี้มีผู้ให้บริการบางรายให้บริการฟรี เช่น ระบบของบริษัท ทีโอที จำกัด (มหาชน) (TOT online)
            2. เบราเซอร์ (browser) เป็นโปรแกรมที่เข้าไปใช้ทรัพยากรต่าง ๆ บนเว็บไซต์ได้ ทำให้สามารถเรียกดูข้อมูล ส่งข้อมูล แสดงข้อความและภาพ ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนจากเว็บไซต์หนึ่งไปยังอีกเว็บไซต์หนึ่งได้โดยง่าย หรือที่เรียกกันว่า การท่องบริการบนอินเทอร์เน็ต (Surf) เว็บเบราเซอร์ที่ใช้งานกันมากได้แก่ Microsoft Internet Explorer, Mozilla Firefox และ Opera

            เบราเซอร์จะเชื่อมต่อไปยังแหล่งทรัพยากรต่าง ๆ ได้โดย มีการกำหนดที่อยู่ของทรัพยากรไว้ ซึ่งเรียกว่า ยูอาร์แอล โดยจะประกอบไปด้วย 2 ส่วน ดังภาพที่ 2.26 ส่วนแรกจะแสดงถึงโปรโตคอลที่ใช้ในการเชื่อมต่อกับแหล่งที่อยู่ของทรัพยากร โปรโตคอลเป็นกฎสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ โปรโตคอล http:// เป็นโปรโตคอลพื้นฐานสำคัญที่ใช้บนเว็บไซต์ ส่วนที่สองคือ ชื่อโดเมน (domain name) หรือ โดเมนลำดับสูงสุด (top level domain) ซึ่งเป็นชื่อคอมพิวเตอร์ที่มีทรัพยากรเหล่านั้นอยู่ ส่วนสุดท้ายของชื่อโดเมนเรียกว่า รหัสโดเมน (domain code) ซึ่งจะบอกประเภทขององค์กร เช่น .com หมายถึง เว็บไซต์ทางการค้า ดังตารางที่ 2.1
                          เมื่อพิมพ์ยูอาร์แอลลงไปในเบราเซอร์ เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้งานจะเชื่อมต่อไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการสารสนเทศเกี่ยวกับเว็บไซต์นั้น ซึ่งเป็นแหล่งที่เก็บข้อมูลเอกสารและสื่อมัลติมีเดียต่าง ๆ ของแต่ละองค์กร โดยทั่วไปจะเรียกกันว่า เว็บไซต์ จากนั้นคอมพิวเตอร์ที่ให้บริการสารสนเทศก็จะส่งข้อมูลหน้าแรกของเว็บไซต์ หรือ โฮมเพจ (Homepage) มายังเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ผู้ใช้ทำงานอยู่ และผู้ใช้ยังสามารถเรียกดูเอกสารหน้าอื่น ๆ ที่อยู่ในเว็บไซต์นั้นได้ โดยเอกสารแต่ละหน้าจะเรียกว่าเว็บเพจ (Web page)

ตารางที่ 2.1 ตารางเปรียบเทียบรหัสโดเมนของประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศไทย
การเชื่อมต่อกับบริการบนอินเทอร์เน็ต  (วิโรจน์ และ วศิน 2548 : 185-186)
            ผู้ใช้ทั่วไปจะเชื่อมต่อบริการบนอินเทอร์เน็ตได้โดยผ่านทางผู้ให้บริการบริการบนอินเทอร์เน็ต หรือ ไอเอสพี ดังที่กล่าวไปแล้ว แต่เครื่องคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้จะต้องมีอุปกรณ์ที่เหมาะสมในการแปลงสัญญาณผ่านสื่อที่จะใช้แต่ละประเภท ดังต่อไปนี้

1. ถ้าต่อผ่านสายโทรศัพท์ธรรมดา ต้องมีโมเด็ม (Modem) ที่ต่อกับคอมพิวเตอร์แล้วเอาสายโทรศัพท์มาต่อเข้าไปอีกทีหนึ่ง หรือถ้าเป็นโทรศัพท์แบบไอเอสดีเอ็น (ISDN : Integrated Services Digital Network) ก็ต้องใช้โมเด็มไอเอสดีเอ็นโดยเฉพาะแทน ตามภาพที่ 2.7

            2. ถ้าต่อบริการบนอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ที่เรียกว่าเอดีเอสแอลหรือบรอดแบนด์ (Broadband) ก็ต้องมีโมเด็มชนิดเอดีเอสแอลที่ต่อคอมพิวเตอร์เข้ากับสายโทรศัพท์เช่นเดียวกัน แต่รับส่งสัญญาณในสายคนละแบบ คนละความถี่กัน ทำให้ได้ความเร็วสูงขึ้นกว่าโมเด็มธรรมดา แต่ต้องมีอุปกรณ์พิเศษที่ชุมสายโทรศัพท์ด้วยจึงจะใช้ได้ ตามภาพที่ 2.8
คำศัพท์ที่ควรรู้เกี่ยวกับบริการบนอินเทอร์เน็ต
1.      เวิลด์ไวด์เว็บ (World Wide Web : WWW)  คือบริการบนอินเทอร์เน็ตที่ครอบคลุมทั่วโลก ตัวดับเบิ้ลยู ตัวเรียงกันจะใช้เป็นส่วนหนึ่งของชื่อของคอมพิวเตอร์แม่ข่ายในบริการบนอินเทอร์เน็ต
2.      เว็บไซต์ (Web Site) คือแหล่งที่เก็บรวบรวมข้อมูลเอกสารและสื่อประสมต่าง ๆ เช่นรูปภาพ เสียง ข้อความ ของแต่ละบริษัท หรือหน่วยงานโดยเรียกเอกสารต่าง ๆ เหล่านั้นว่าเว็บเพจและ เว็บเพจหน้าแรกของแต่ละเว็บไซต์ เรียกว่า โฮมเพจ (Home Page)
3.      ไอพีแอดเดรส (IP Address) คือหมายเลขประจำตัวของเครื่องคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ที่อยู่บนบริการบนอินเทอร์เน็ตซึ่งการติดต่อสื่อสารบนบริการบนอินเทอร์เน็ตจะอาศัยหมายเลขไอพีแอดเดรส นี้ในการระบุเครื่องคอมพิวเตอร์ปลายทาง ไอพีแอดเดรสประกอบด้วยตัวเลขทั้งหมด ชุด แต่ละชุดมีค่าตั้งแต่ 0-255 และถูกคั่นด้วย “ . ” เช่น 203.107.49.1
4.      โปรโตคอล (Protocol) เป็นระเบียบวิธีการหรือภาษาที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารระหว่างเครื่องคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ที่อยู่ในระบบ ซึ่งในระบบคอมพิวเตอร์บริการบนอินเทอร์เน็ตนั้นมีให้อยู่ด้วยกันหลายโปรโตคอล
5.      ไฮเปอร์เท็กซ์ลิงก์ (Hypertext Link) คือ ชื่อเรียกวิธีการเชื่อมโยงระหว่างเว็บเพจต่าง ๆ ที่อยู่ในระบบบริการบนอินเทอร์เน็ต
6.      เอชทีเอ็มแอล (Hypertext Markup Language : HTML) เป็นภาษามาตรฐานที่ใช้ในการสร้างเว็บเพจ ซึ่งสามารถกำหนดการเชื่อมต่อไปยังเว็บเพจต่าง ๆ ได้โดยใช้ไฮเปอร์เท็กซ์ลิงก์
7.      เว็บเบราเซอร์ (Web Browser) โปรแกรมที่ทำการประมวลผลไฮเปอร์เท็กซ์แล้วแสดงผลออกมาทางจอภาพเช่น MS Internet Explorer, Mozilla Firefox, Opera เป็นต้น
8.      ไอเอสพี (Internet Service Provider : ISP) เป็นหน่วยงานหรือบริษัทที่ให้บริการเชื่อมต่อบริการบนอินเทอร์เน็ต เช่น TOT, TT&T, KSC, CS Loxinfo Internet เป็นต้น
สรุป
อินเทอร์เน็ต เป็นเทคโนโลยีการติดต่อสื่อสารเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและสารสนเทศ ที่มีอิทธิพลต่อชีวิตประจำวันของมนุษย์มากที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถสืบค้นข้อมูลจากทั่วโลก และคัดลอกข้อมูลมาเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ของตนเองได้อย่างวดเร็ว จึงเรียกอินเทอร์เน็ตได้อีกอย่างหนึ่งว่า “ทางด่วนสารสนเทศ (Information Highway)”
                                                              
           

            

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น